การแห่งปราสาทผึ้ง เป็นประเพณีโบราณอีสาน มุ่งทำเป็นพุทธบูชา หรือเกี่ยวข้อง กับความเชื่อทางศาสนา คำว่า "ปราสาทผึ้ง" ในภาษาอีสานจะออกเสียง "ผาสาทเผิ่ง"
ความสาคัญของประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง การแห่งปราสาทผึ้ง เป็นประเพณีโบราณอีสาน
มุ่งทาเป็นพุทธบูชา หรือเกี่ยวข้อง กับความเชื่อทางศาสนา คาว่า
"ปราสาทผึ้ง" ในภาษาอีสานจะออกเสียง
"ผาสาทเผิ่ง"งานแห่ปราสาทผึ้งในเทศกาลออกพรรษาของชาวอีสาน ช่วงเวลา
เทศกาลวันออกพรรษา วันขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๑๑ แม้ว่าจะมีอยู่ทั่วไปในหลายจังหวัด
แต่ก็ไม่จัดใหญ่โตและปฏิบัติต่อเนื่องเช่นของเมืองสกลนคร
ชาวสกลนครมีการฉลองเทศกาลออกพรรษาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากจังหวัดอื่น
ๆ ด้วยการสร้าง “ ปราสาทผึ้ง ” ถวายเป็นพุทธบูชาโดยยึดคติความเชื่ออยู่
2 กระแส คือที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นเวลาผู้คนและเป็นของสูง
หากเป็นที่ประทับของ พระราชาก็เรียกว่า พระราชวัง
ถ้าเป็นที่อยู่ของเศรษฐีก็เรียกว่า คฤหาสน์
ส่วนสถานที่จาพรรษาของพระภิกษุสามเณรนิยมเรียกว่า กุฏิ
สาหรับที่อยู่ของคนธรรมดาสามัญพากันเรียกว่า
"บ้าน"ส่วนความเชื่ออีกกระแสหนึ่ง สืบเนื่องมาจากครั้งพุทธกาลได้มีพระภิกษุชาวโกสัมพีเกิดทะเลาะวิวาทกัน
ระหว่างพระธรรมธรฝ่ายหนึ่งกับพระวินัยธรอีกฝ่ายหนึ่ง
แม้พระพุทธองค์ทรงตักเตือนสักเท่าใดก็ไม่ฟัง
จึงเสด็จหนีความราคาญเหล่านั้นไปพักอยู่ที่ป่ารักขิตวัน
ซึ่งที่ป่านั้นมีพญาช้างและพญาวานรคอยเป็นอุปัฏฐากพระพุทธองค์
โดยพญาช้างมีหน้าที่ตักน้า ส่วนพญาวานรเป็นผู้หาผลไม้มาถวายเป็นประจาตลอดพรรษา
อยู่มาวันหนึ่งพญาวานรได้ไปพบรวงผึ้งบนต้นไม้เข้า จึง เก็บมาถวายแด่พระพุทธเจ้า
เมื่อพระพุทธองค์ทรงรับรวงผึ้งนั้นแล้วทาให้พญาวานรดีใจมาก
ถึงกับกระโดดโลดแล่นไปบนต้นไม้กระโจน ไปมาบนคาคบ เกิดพลาดพลัดตกลงมาถึงแก่ความตาย
ด้วยอานิสงส์จากการได้ถวายรวงผึ้งแด่พระพุทธเจ้า ทาให้พญาวานรได้ไปเกิด
เป็นพรหมบนสวรรค์ด้วยความเชื่อทั้งสองกระแสจึงเป็นที่มาของประเพณีปราสาทผึ้ง
อย่างไรก็ดีในสาระของความต้องการบุญกุศลส่วนตัวดังกล่าวมาแล้วยังมีสาระที่ต้องการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้วายชนม์
ซึ่งอาจได้มา จากคติของชาวจีนที่ทามาหากินในสกลนคร
ที่ทาการตักเป็นรูปทรงบ้านเรือนอาคารเผาอุทิศให้ผู้ตาย แต่หากดัดแปลงเป็นการสร้าง
อาคารเป็นทรงหอผี
ประดับด้วยดอกผึ้งถวายพระสงฆ์อุทิศให้ผู้วายชนม์การทาปราสาทผึ้งส่วนมากในอีสานนิยมทากันมาแต่โบราณ
ด้วยเหตุผลหรือคติที่ว่า 1. เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
2.
เพื่อตั้งความปรารถนาไว้หากเกิดในภพมนุษย์ขอให้มีปราสาทราชมณเฑียรอาศัยอยู่ด้วยความมั่งมีศรีสุข
ถ้าเกิดในสวรรค์ขอ ให้ม มีปราสาทอันสวยงาม มีนางฟ้าแวดล้อมเป็นบริวารจานวนมาก 3.
เพื่อรวมพลังสามัคคีทาบุญร่วมกัน พบประ สนทนากันฉันท์พี่น้อง 4.
เพื่อเป็นการประกาศหลักศีลธรรม ทางบุญทาง กุศลให้ปรากฏโดยชาวคุ้มวัดต่าง ๆ
ร่วมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน บริจาคเงิน ตามศรัทธาพร้อมกัน ทาปราสาทผึ้ง
กาหนดเอาวันเทศกาลออกพรรษาเป็นวันจัดงาน วันแรกแข่ง เรือ วันที่สองแห่ปราสาทผึ้ง
วันที่ สามทาบุญออกพรรษา กลางคืนมีการสมโภชตามสมควร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น